ประวัติความเป็นมาของตุ๊กตาเฟอร์บี้
ตุ๊กตาเฟอร์บี้ถือกำเนิดในปี 2541 หรือเมื่อประมาณ 14 ปีที่แล้ว (ปีนี้ พ.ศ.2556) โดยบริษัท Hasbro เฟอร์บี้เป็นของเล่นที่แปลกใหม่มากในยุคนั้น เรียกได้ว่าทำให้ทั้งโลกฮือฮา เพราะตุ๊กตาเฟอร์บี้เป็นตุ๊กตาหุ่นยนต์ ซึ่งไม่ใช่แค่ตุ๊กตาหุ่นยนต์ธรรมดา แต่เป็นตุ๊กตาสัตว์เลี้ยงหุ่นยนต์ สามารถขยับตา ขยับปากพูดได้แล้ว ยังสามารถเต้นได้อีกด้วย เฟอร์บี้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นของเล่นขายดีที่สร้างยอดจำหน่ายได้ถึง 40 ล้านตัวทั่วโลกในปี 2541 ปัญหาของเจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้ในยุคแรกๆ คือภาษาที่ใช้พูดคุยสื่อสารระหว่างตุ๊กตากับเจ้าของนั้นไม่ค่อยจะรู้เรื่องกันเท่าไร เพราะเจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้มีภาษาของตัวเอง คือ ภาษาเฟอร์บิช (furbish) อาจเป็นความตั้งใจของผู้ผลิตที่ต้องการให้สินค้าของตัวเองมีเอกลักษณ์เฉพาะ เพื่อให้มีผลต่อความรู้สึกต่อลูกค้า และง่ายต่อการทำการตลาด
เอกลักษณ์ของเจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้
ตุ๊กตาเฟอร์บี้ มีหน้าตาเหมือนนกฮูกผสมกับหนูแฮมสเตอร์ สูงประมาณ 5 นิ้ว และมีปฏิกิริยาตอบสนองเหมือนสัตว์เลี้ยงจริงๆ
วิวัฒนาการใหม่ ตุ๊กตาเฟอร์บี้ Furby
ตุ๊กตาเฟอร์บี้ เคยมีหน่วยความจำขนาด 500 KBและในปีนี้ 2012-2013 เฟอร์บี้มีหน่วยความจำที่มากกว่าเก่าถึง 6 เท่า ใช้เทคโนโลยี Emoto-Tronics เพื่อช่วยทำให้การขยับเขยื้อนหรือแสดงอารมณ์บนใบหน้าและท่าทางดูสมจริง ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปาก หู และขนตาที่ขยับได้ ช่วยให้มันหัวเราะ ยิ้ม ทำหน้าเศร้า หาวนอน หรือแม้แต่อาการน่าเกลียดน่ากลัว อาการกลัว และเบื่อ
วิธีการเล่นตุ๊กตาเฟอร์บี
ตุ๊กตาเฟอร์บี้ ฉลาดที่สามารถพูดได้หลายร้อยคำหลายร้อยวลีทั้งในภาษาเฟอร์บีส ซึ่งเป็นภาษาของมันเอง
(เฟอร์บี้จะพูดคุยภาษา Furbish กัน) และภาษาอังกฤษ
เรายิ่งพูดภาษาเฟอร์บีสกับมันมากเท่าไร มันก็จะพูดกลับมาเป็นภาษาอังกฤษมากเท่านั้น
วิธีนี้ทำให้เด็กๆได้เรียนรู้ภาษาของมัน โดยมีพจนานุกรม เฟอร์บีส/อังกฤษ และ อังกฤษ/เฟอร์บีส ให้ด้วย
การจดจำเสียงได้ หมายความว่า เฟอร์บี้มันจะฟังที่เราพูด และตอบสนองตามอารมณ์ของมัน ถ้าให้มันเล่าอะไรให้ฟัง มันก็จะเล่าเรื่องชีวิตของมันสมัยที่อยู่บนเกาะโนนามี ถ้าจะเอาเสียงหัวเราะ เฟอร์บี้ก็เล่นมุข น็อกๆ เคาะประตูบ้านได้
เล่นเกมส์กับเฟอร์บี้ เฟอร์บี้จะท้าเราเล่นเกมไฟแดงไฟเขียว นั่นคือเฟอร์บี้จะนับ 1 ถึง 10 ในขณะที่ให้เราเดินหนี จากนั้นเราต้องกลับมาให้ใกล้มันมากที่สุด เพื่อจั๊กจี๊พุงมันให้ได้ โดยที่ไม่ถูกจับได้ ในขณะที่มันลืมตาและหลับตา เล่นร้องเพลง หรือเต้นรำกับมันได้
http://www.dmc.tv/pages/scoop/%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B9%89.html
บริษัทผู้คิดค้นเจ้าเฟอร์บี้ ก็ไม่ยอมปล่อยให้สิ่งที่ตัวเองคิดมากับมือเลือนหายไปกับกาลเวลา เพราะนี่คือผลงานชิ้นโบว์แดง เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดโปรไฟล์ของบริษัทก็ว่าได้ ดังนั้นพวกเขาจึงทำการยกเครื่องเจ้าเฟอร์บี้ใหม่ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เป็นการกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งของตุ๊กตาเฟอร์บี้ สุดยอดสัตว์เลี้ยงหุ่นยนต์
หากเอ่ยชื่อบริษัท Hasbro ในวงการของเล่นต่างรู้กันดีว่า ชื่อนี้คือชื่อของบริษัทผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ที่ผลิตของเล่นนานาชนิดส่งขายทั่วโลกและเป็นผู้ที่สร้างความฮือฮาให้กับตลาดของเล่นโดยในปี 2541 หรือเมื่อประมาณ 14 ปีที่แล้ว ได้มีการเปิดตัวสัตว์เลี้ยงหุ่นยนต์เสมือนจริงคือเจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้รุ่นแรกนั่นเอง
เจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้มีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ โดยหน้าตาเหมือนนกฮูกผสมกับหนูแฮมสเตอร์ สูงประมาณ 5 นิ้ว และมีปฏิกิริยาตอบสนองเหมือนสัตว์เลี้ยงจริงๆ ซึ่งในการเปิดตัวเจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้ครั้งนั้น ได้รับความสำเร็จอย่างงดงาม เพราะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ในวงการของเล่น โดยได้รับการบันทึกว่าเป็นของเล่นที่มียอดจำหน่ายสูงสุดถึง 40 ล้านตัวทั่วโลกเลยทีเดียว
ปัญหาของเจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้ในยุคแรกๆ คือภาษาที่ใช้พูดคุยสื่อสารระหว่างตุ๊กตากับเจ้าของนั้นไม่ค่อยจะรู้เรื่องกันเท่าไร เพราะเจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้ ดันมีภาษาของตัวเอง ชื่อว่าภาษาเฟอร์บิช (furbish) ไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจของผู้ผลิตหรือเปล่าที่ต้องการให้สินค้าของตัวเองมีเอกลักษณ์เฉพาะ เพื่อให้มีผลต่อความรู้สึกต่อลูกค้า และง่ายต่อการทำการตลาด
แต่ผลที่ตามมาคือ ทำให้ผู้เล่นบางส่วนรู้สึกว่าภาษาเฉพาะของเจ้าเฟอร์บี้นี้ช่างเป็นอุปสรรคในการสื่อสารเหลือเกิน จะสั่งอะไรทีก็ต้องมานั่งศึกษาก่อนว่าจะต้องออกเสียงอย่างไร ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อกาลเวลาผ่านไป ความนิยมในตัวเจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้จึงค่อยๆ ลดความนิยมลงดไป
แต่บริษัท Hasbro ผู้ผลิตเจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้ก็ไม่ได้ย่อท้อ และไม่ยอมให้เจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้หายไปกับกาลเวลา เพราะถือได้ว่าเจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้นี้เป็นผลงานชิ้นเอกระดับสุดยอดโปรไฟล์ของบริษัท หากปล่อยให้เสื่อมความนิยมไปเฉยๆ ก็จะเสียของเปล่าๆ จึงมีแผนการพัฒนาปรับปรุงเจ้าเฟอร์บี้ขึ้นมาใหม่ให้ทันสมัยและสามารถสื่อสารกับผู้เล่นได้มากขึ้น
จุดเด่นของเจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้ในเวอร์ชั่นใหม่นี้ ได้มีการเปลี่ยนจากดวงตาพลาสติกมาเป็นจอ LCD และเรืองแสงได้ แต่ยังคงมีเปลือกตาที่เปิดปิดได้เหมือนรุ่นก่อน ส่วนขนาดลำตัวจะใหญ่กว่ารุ่นเก่าเล็กน้อย และมีการติดตั้งจุดเซ็นเซอร์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ตุ๊กตาเฟอร์บี้รุ่นใหม่ยังสามารถรับรู้ และเคลื่อนไหวได้มากกว่ารุ่นเก่า โดยที่ลำตัวตัวของมันจะปกคลุมด้วยขนนุ่มๆ มีหู และเท้า เป็นพลาสติก มีจะงอยปากที่เปิดปิดได้พร้อมกับลิ้นไว้รับรู้การป้อนอาหาร
ส่วนปัญหาในเรื่องของภาษาในรุ่นแรกๆ มาในเวอร์ชั่นนี้ก็หมดกังวลกับเรื่องดังกล่าวไปได้เลย เพราะตุ๊กตาเฟอร์บี้รุ่นใหม่นี้จะมีแอพพลิเคชั่นให้ดาวน์โหลดฟรีใน iOS ซึ่งมีทั้งระบบแปลภาษา, ระบบควบคุม และมีระบบสำหรับให้อาหารเฟอร์บี้ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถใช้แอพพลิเคชั่นใน iPhone หรือ iPad ผ่าน Furby app เพื่อสั่งงานเฟอร์บี้ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เฟอร์บี้รุ่นนี้ไม่มีสวิตช์สำหรับปิดเครื่องเหมือนเช่นเคยเพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงจริงๆ ซึ่งถ้าเราปล่อยมันทิ้งไว้นาน ๆ เจ้าเฟอร์บี้ก็จะหลับไปเอง และเราก็สามารถปลุกมันได้ด้วยการลูบตัวตามปกติ เรียกได้ว่าให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงได้สมจริงยิ่งขึ้น
ตุ๊กตาเฟอร์บี้เป็นของเล่นที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคนที่รักสัตว์แต่ไม่สามารถเลี้ยงได้จริง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็สามารถเลี้ยงเจ้าเฟอร์บี้ไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาได้ โดยที่ไม่ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นภาระการกลับมาของตุ๊กตาเฟอร์บี้ ถือเป็นการกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ของตุ๊กตาสัตว์เลี้ยงหุ่นยนต์ ซึ่งดูแล้วก็น่าจะถูกใจคนรุ่นใหม่เพราะไม่ใช่แค่ตุ๊กตาธรรมดาแต่เป็นตุ๊กตาสัตว์เลี้ยงหุ่นยนต์ที่มีทั้งความน่ารัก สดใส และเทคโนโลยีที่ทันสมัยผสานออกมาเป็นหนึ่งเดียวนามว่า เฟอร์บี้ นั่นเอง
http://www.thaibizcenter.com/KnowledgeCenter.asp?kid=10942